แอป GPS ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตเป็นแอปประเภทหนึ่งที่ให้บริการนำทางและบอกเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม
ทำงานโดยใช้เทคโนโลยี Global Positioning System (GPS) ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ
แอปเหล่านี้จำเป็นต้องเข้าถึงสัญญาณ GPS ซึ่งส่งโดยดาวเทียมที่โคจรรอบโลก
ข้อดีที่สำคัญของการใช้แอป GPS โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็คือ แอปนี้ไม่ต้องพึ่งพาเครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ในการบอกเส้นทาง หมายความว่าผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่สัญญาณไม่ดี
นอกจากนี้ แอปเหล่านี้ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลซึ่งอาจมีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จำกัด
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการใช้แอป GPS โดยไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือสามารถให้ข้อมูลแผนที่พื้นฐานเท่านั้น และไม่สามารถอัปเดตสภาพการจราจรหรือแนะนำเส้นทางอื่นตามการอัปเดตการจราจรตามเวลาจริง เนื่องจากข้อมูลนี้ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้งานได้
นอกจากนี้ แอปเหล่านี้อาจต้องมีการอัปเดตแผนที่และซอฟต์แวร์เป็นระยะเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง แต่สามารถทำได้ผ่านเครือข่าย Wi-Fi แทนเครือข่ายเซลลูลาร์
คำอธิบาย: ตัวอย่างของแอป GPS ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต
1. หนึ่งในแอพ GPS ที่ใช้มากที่สุดซึ่งไม่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือ Google Maps
แอปนำเสนอแผนที่แบบออฟไลน์ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแผนที่และบันทึกลงในอุปกรณ์เพื่อใช้ในภายหลังโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลใดๆ
นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถค้นหาสถานที่ ขอเส้นทาง และแม้แต่ดูข้อมูลการจราจรโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
2. แอพ GPS ยอดนิยมอีกตัวที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือ Here WeGo ช่วยให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแผนที่ของทั้งประเทศหรือภูมิภาคและใช้แบบออฟไลน์เพื่อการนำทาง
ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาสถานที่ วางแผนเส้นทางล่วงหน้า และตรวจสอบข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
3. OsmAnd เป็นอีกหนึ่งแอป GPS ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเมื่อพูดถึงการนำทางโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
นำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลาย รวมถึงคำแนะนำด้วยเสียงแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว การวางแผนเส้นทางแบบหลายจุด และการดูแผนที่แบบออฟไลน์ เป็นต้น
ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาจุดสนใจ เช่น ร้านอาหารหรือปั๊มน้ำมัน แม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยใช้แอพนี้
สิ่งนี้หมายความว่าสำหรับคุณ
การใช้แอป GPS โดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ตหมายความว่าคุณสามารถนำทางได้แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีเครือข่ายเซลลูลาร์ ตราบใดที่อุปกรณ์ของคุณมีความสามารถ GPS
คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณขอเส้นทางและแผนที่ไปยังจุดหมายปลายทางของคุณโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ห่างไกล
ไม่ว่าคุณจะเดินป่าบนภูเขาหรือขับรถผ่านพื้นที่ชนบท การมีแอป GPS ที่ไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ
ข้อดีหลักอย่างหนึ่งของการใช้แอป GPS แบบออฟไลน์คือช่วยประหยัดแบตเตอรี่
เนื่องจากแอปไม่ต้องการการใช้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงแผนที่และเส้นทาง แบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณจึงใช้งานได้ยาวนานกว่าเมื่อคุณใช้แอปแผนที่ออนไลน์ทั่วไป
นอกจากนี้ แอพประเภทนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดการใช้ข้อมูลด้วยการดาวน์โหลดแผนที่ล่วงหน้าในขณะที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi